“รองฯชัชวาล”เรียก 5 อำเภอชี้แจงและปรับแผนทำงานใหม่ หลังจุดความร้อนพุ่ง ปรับแผนจัดประชุมทุกวัน เผยแค่ต้นเดือนก.พ.จุดความร้อนพุ่งกว่า 2 พัน หวั่นไม่ได้ตาม KPI คาดอีก 2 เดือนสถานการณ์ยิ่งรุนแรง เชื่อไฟไหม้ลุกลามที่ฮอด-จอมทองมีคนตั้งใจ ยอมรับระดมสรรพกำลังลงไปหมดทั้งภาคอาการและพื้นดิน กำชับเชียงดาวอย่าให้ซ้ำรอยต้องเตรียมตัวล่วงหน้า
เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 11 ก.พ.66 ที่ศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็กจังหวัดเชียงใหม่ นายชัชวาลย์ ปัญญา รองผวจ.เชียงใหม่เรียกประชุมด่วนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและทำอำเภอที่จุดความร้อนพุ่งสูงในรอบสัปดาห์คือ อ.ฮอด,จอมทอง,แม่แจ่ม.แม่แตงและเชียงดาวเพื่อแก้ไขปัญหาไฟไหม้ป่าที่เกิดขึ้นทุกทิศทาง จนทำให้ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก pm2.5เกินค่ามาตรฐานและมีผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน
รองผวจ.เชียงใหม่ กล่าวว่า เนื่องจากสัปดาห์นี้มีจุดความร้อนเพิ่มสูงมาก จึงเรียกประชุมเร่งด่วน ซึ่งผู้บังคับบัญชาให้ความสำคัญอย่างยิ่งว่าทำอย่างไรให้จุดความร้อนน้อยที่สุด และกำชับให้ปรับแผนใหม่ เอาทุกหน่วยมาคุยกัน พื้นที่สีแดงตรงจุดไหน ให้เพิ่มมาตรการทันที ที่โดยเฉพาะพื้นที่จอมทองและฮอด พื้นที่ไหม้ซ้ำเดิมทุกปี ตอนนี้สรรพกำลังถูกทุ่มลงไปที่ อ.ฮอดหมดเลย ทั้งภาคอากาศและภาคพื้นดิน ทุกอำเภอควรจะรีบตรวจสอบหลังได้รับรายงานเรื่องจุดความร้อน ต้องเข้าไปดำเนินการให้เร็วไม่ใช่ปล่อยให้ลามขึ้นดอยลงหน้าผา เพราะไฟไม่ได้ไหม้ไปทิศทางเดียว มันลามไปหมด
“ คุณภาพอากาศวิกฤตขนาดนี้หายใจกันออกมั้ย เมื่อวานผมไปแม่แจ่ม ก่อนจะไปถึงจุดหมายเห็นแล้วว่าอากาศมืดมิด ซึ่งถ้าผมเป็นผู้นำอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านไม่นิ่งเฉยแน่ ไม่ตอบโต้สถานการณ์หรือทำอะไรเลย วันนี้เชิญมา 5-6 อำเภอ คือ ฮอดไฟไหม้มา 4 วัน 4 คือ จอมทอง 26 จุด แม่แจ่ม แม่แตง เชียงดาว ซึ่งเทียบย้อนหลังช่วงนี้จะไม่มีไฟเลย แต่กลับมีเพิ่ม แล้วรอบทิศทางของตัวเมืองเชียงใหม่ไฟไหม้ป่าหมด จะทำให้เมืองเชียงใหม่ที่เป็นแอ่งกะทะไม่ถูกปกคลุมด้วยฝุ่นควันได้อย่างไร”นายชัชวาล กล่าวและว่า
ผมบอกเสมอว่าถ้าเกินศักยภาพที่อำเภอจะทำได้ให้แจ้งจังหวัด แต่ไม่มีใครแจ้งเลย อย่างฮอดได้ร้องขอมาทางจังหวัดก็ลงไปช่วย ระดมเฮลิคอปเตอร์ไปช่วยดับจนได้ ซึ่งวันนี้ผวจ.เชียงใหม่ก็ลงไปเอง หลังจากนี้ขอให้อำเภอปรับแผนทั้งลาดตระเวน บังคับใช้กฎหมาย นาคอเรือและออบหลวงเป็นพื้นที่ไหม้ซ้ำซากและมีไฟเพิ่มและหนักเพิ่มขึ้น มีความขัดแย้งในพื้นที่หรือไม่ ต้องหาตัวคนเผาให้ได้ ตอนนี้ผู้ว่าฯประกาศให้เงินรางวัลนำจับสำหรับผู้ให้เบาะแสมือเผาป่าแล้ว ไม่ใช่แค่ที่ฮอด จอมทอง ทุกอำเภอเลย
ขณะที่นายอรุณ ปินตา หน.สนง.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า สถานการณ์ไฟป่าฯ ของเชียงใหม่เป็นช่วงขาขึ้น จุดความร้อนสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วง 2 สัปดาห์ทั้งที่ฮอดและจอมทอง ซึ่งมีสถานการณ์บางอย่างที่เป็นชนวน เช่นเดียวกับแม่แตงและเชียงดาว ก่อนที่จะปรับระบบการดำเนินการขอให้อำเภอที่มีจุดความร้อนสูงรายงานให้ทราบก่อน
ทางด้านปลัดปกครอง อ.ฮอด รายงานว่า ช่วงเช้าวันนี้มีจุดความร้อนเพิ่มขึ้นจึงได้ร้องขอเฮลิคอปเตอร์มา 3 ลำและมีชุดพื้นดินที่ระดมจากหลายฝ่าย รวมทั้งเสือไฟ ของกระทรวงทรัพย์เพิ่มมาอีก 3 ชุด สถานการณ์ตอนนี้พื้นที่ส่วนใหญ่ดับได้แล้ว ที่ล่าช้าเพราะเป็นภูเขาสูงชันเข้าถึงยาก และตอนนี้ภาคพื้นดินเข้าไปทำแนวกันไฟเพื่อให้ไฟถึงจุดยุติ ตอนนี้เหลือ 6 จุดได้ระดมกำลังเข้าไปแล้ว คาดว่าตอนเย็นนี้น่าจะดับได้ ตอนนี้ตั้งข้อสังเกตว่ามีคนไปจุดแน่นอน และปชส.ห้ามเผาแล้วมีการตั้งด่าน ตรวจคนเข้าออกแล้ว ส่วนข้อเสนอของจังหวัดที่อยากให้ประกาศปิดป่านั้นคงยาก เพราะป่าเข้าได้ทุกทิศทาง
ส่วนปลัดอ.จอมทอง กล่าวว่า ไฟไหม้ป่าที่เกิดในพื้นที่อยู่หน้าผาสูงชัน ทางนายอำเภอขึ้นฮ.ไปตรวจร่วมกับฮอดแล้ว ก็คงต้องปล่อยให้ไหม้สุดทางไปถึงลำห้วยก็จะดับเอง ส่วนไฟแถวบ้านแม่สอย บ้านแปะ ชุดเสือไฟเข้าพื้นที่แล้ว นอกจากนี้ทางอำเภอได้ประชุมกับชาวบ้านแล้วเดิมให้มีตั้งด่านชุมชนในช่วงเดือนมี.ค.เป็นต้นไป ตอนนี้นายอำเภอจะปรับแผนให้มาตั้งด่านให้เร็วขึ้น
ขณะที่นายกิตติพงษ์ ปลัดฝ่ายปกครองอ.แม่แจ่ม กล่าวว่า ที่ผ่านมามีแผนบริหารเชื้อเพลิง ซึ่งจุดความร้อนที่เกิดเป็นภาคกลางวัน วันนี้เป็นวันแรกที่มีจุดความร้อนตอนเช้าซึ่งแสดงให้เห็นว่าเป็นไฟกลางคืน จึงได้ปรับแผนเรื่องบริหารเชื้อเพลิงฯได้แจ้งทุกหมู่บ้านงดบริหารเชื้อเพลิง ซึ่งพบจุดความร้อนกระจายทุกตำบล ประเมินปัญหาว่าการติดต่อสื่อสารชั้นชิดและมีแผนบริหารเชื้อเพลิงจึงระงับไม่ทัน ซึ่งเป็นบางจุดที่ติดต่อทางมือถือไม่ได้ และจากการสอบถามมีบางพื้นที่เริ่มแห้งและปล่อยทำกิน เช่นแม่นาจร พื้นที่ติดถนนมีคนแอบจุดไฟก็ไปดับแล้ว บางพื้นที่ชาวบ้านไม่เชื่อฟังผู้นำชุมชน ไปทำกินข้ามหมู่บ้านและควบคุมไม่ได้จึงทำให้เกิดไฟ แม่แจ่มปรับแผนเน้นการลาดตระเวนให้มากขึ้น เพื่อปชส.ไปด้วยเพราะผู้นำท้องถิ่นเรียกร้องมา เดิมกำหนดจะทำ 15 มีนาคมต้องรีบเริ่มทันที และจุดความร้อน 18 จุดของวันนี้ ดับไปแล้ว 10 จุด 
นายชัชวาลย์ รองผวจ.เชียงใหม่กล่าวว่า การบริหารเชื้อเพลิงจังหวัดสั่งให้ระงับเมื่อ 5 ก.พ.แล้ว เพราะสัปดาห์นี้เชียงใหม่มีภารกิจสำคัญให้งดทุกพื้นที่ และพยายามเข้าใจว่าการสื่อสารลำบาก แต่ก็แม่แจ่มเคยเป็นโมเดลสำคัญมาแล้ว ซึ่งแนวทางมีอยู่แล้ว ควรเอาแนวทางของนายอำเภอเก่าๆ ที่ประสบความสำเร็จมาถอดบทเรียน เพราะบอกเองว่าผู้นำท้องถิ่นอยากเห็นหน้าผู้บริหารไปในพื้นที่ ก็ควรทำทันที และทำงานให้หนักขึ้น อย่ารอให้เทวดามาช่วยอย่างเดียว
ส่วนด้านปลัด อ.เชียงดาว รายงานว่า จุดความร้อนที่เกิดขึ้นอยู่ในอุทยานฯผาแดงและเป็นป่าลึก ตอนนี้อำเภอได้ปรับแผนแล้วให้ป่าไม้กับอุทยานฯผนึกกำลังร่วมหากเกิดไฟให้เข้าไปดับ และมีชุดของฝ่ายปกครอง ลาดตระเวนด้วย
รองผวจ.เชียงใหม่ กล่าวว่า ที่ให้เชียงดาวเข้าเพราะมีจุดความร้อนที่มีนัยยะสำคัญ เพิ่่งกลับจากฝางเมื่อคืนเห็นไฟจากปิงโค้ง ไฟลามลงดอยมาเห็นชัดๆ และที่ให้เข้มงวดและเข้มข้นคือดอยหลวงเชียงดาว อย่าให้เกิดภาพซ้ำรอยไฟไหม้ใหญ่ และหากไม่มีแผนอะไรสถานการณ์จะหนักยิ่งกว่าฮอดและจอมทอง ให้ไปคุยกับป.อาวุโสและนายอำเภอด้วยให้เคาะสนิมได้แล้ว วันนี้มี 12 จุดถ้ายังไม่ทำอะไรพรุ่งนี้เพิ่มอีกเท่าตัวแน่
ทางด้านปลัดปกครอง อ.แม่แตง รายงานว่ามีจุดความร้อน 13 จุดอยู่เขตอุทยานฯศรีลานนาติดพร้าว ซึ่งชุดได้เข้าถึงแนวไฟแล้ว บางจุดเข้ายากเขาสูงชันก็ได้ทำแนวกันไฟแล้ว ในส่วนของป่าสงวน ขณะที่หน.อุทยานฯศรีลานนา กลาว่า บ้านเป้า 4 จุดดับไฟแล้วอีก 8 จุดกลุ่มใหญ่ขณะนี้เหลือ 3 จุดเป็นแนวไฟลงมา จนท.นั่งเรือไปทำแนวกันไฟและเฝ้าสถานการณ์ไม่ให้ข้ามห้วยไปอีก 1 ดอยและอยู่จนกว่าไฟจะดับโดยอุทยานฯจะส่งเสบียงให้ทีมเอง
นายชัชวาลย์ กล่าวว่า ที่เชิญแม่แตงมาเพราะแม่แตงมีพื้นที่กว้างใหญ่ จึงอยากให้ปรับแผนเพราะหากมีการเดินทางไปดับไฟให้ทัน และอยากให้มีการบูรณาการกันและหากเกินศักยภาพให้รายงานจังหวัดมา เพราะแม่แตงยังมีป่าไม้สมบูรณ์ และไฟจะเกิดทางศรีลานนาก่อน ต่อไปจะมีไฟทางโป่งเดือดเข้ามาอีก และจะรอดูว่าพรุ่งนี้จะมีจุดความร้อนเพิ่มมั้ย ทั้ง 5 อำเภอมีสถานการณ์ผิดปกติ นี่ยังแค่เริ่มต้นเดือนก.พ.ถ้าเป็นช่วงมี.ค.-เม.ย.ซึ่งเป็นช่วงพีคจะทำยังงัย อย่าลืมเรามี KPI มีตัวชี้วัดเรื่องลดจุดความร้อนลง 20% แต่ตอนนี้เกิดขึ้นแล้วกว่า 2,000 จุด อีก 2 เดือนจะทำยังงัย และทางจังหวัดจะปรับแผนใหม่มีการจัดประชุมวอร์รูมทุกวันหากสถานการณ์รุนแรงแบบนี้ .
