ผู้ว่าฯแซมเบ้ เผยฝุ่นที่ปกคลุมจังเชียงใหม่ขณะนี้มาจากลมที่พัดจากทางตอนใต้ของจังหวัด ซึ่งมีการเผาไหม้ในพื้นที่ป่า ชี้สถานการณ์ฝุ่นฯเริ่มลดลงและเตรียมทำฝนเทียม หลังพบความชื้นอากาศมีเพียงพอ ขณะที่เชียงใหม่วันนี้(15 ก.พ.)ขึ้นแท่นเมืองที่มีมลพิษสูงสุดในโลกและมีจุดความร้อนสูงถึง 289 จุด
เมื่อเวลา 13.30 น.วันนี้ (15 ก.พ. 66) ที่ ห้องประชุม 4 ชั้น 4 อาคารอำนวยการ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย นายกริชสยาม คงสตรี ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ และ นายอารุณ ปินตา หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ ได้ร่วมกันชี้แจงถึงสถานการณ์หมอกควัน ไฟป่า และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ของจังหวัดเชียงใหม่
นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผวจ.เชียงใหม่ กล่าวว่า ในวันนี้จังหวัดเชียงใหม่มีการตรวจพบค่าฝุ่น PM2.5 สูงที่สุดถึง 295 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งเกิดขึ้นในพื้นที่อำเภอเชียงดาว รองลงมาคือที่อำเภอฮอด 239 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร โดยเป็นผลจากลมที่พัดมาจากทางตอนใต้ของจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมีการเผาไหม้ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ป่าสงวน ประกอบกับเป็นห้วงรอยต่อของการประกาศควบคุมการเผาในที่โล่งทุกประเภทระหว่างวันที่ 15 กุมภาพันธ์ – 30 เมษายน 2566 ทำให้มีการลักลอบเผามากขึ้น เพื่อให้ทันกำหนดประกาศห้ามเผา อย่างไรก็ตาม ฝุ่นควันที่พัดเข้ามาปกคลุมในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่อยู่ในขณะนี้จะเริ่มทยอยลดลง เนื่องจากได้ควบคุมสถานการณ์ไฟป่าให้ทุเลาลงได้แล้ว และจากความชื้นของอากาศที่มีเพียงพอ ก็จะได้มีปฏิบัติการทำฝนเทียม เพื่อให้มีฝนตกลงมาใน 1-2 วันนี้ ซึ่งจะทำให้ค่าคุณภาพอากาศของจังหวัดเชียงใหม่กลับมาสดใสและดีขึ้น
ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวอีกว่า การควบคุมจะไม่สามารถสัมฤทธิ์ผลได้ 100% หากประชาชนยังไม่ตระหนักถึงผลเสียจากการเผา และคิดว่าการเผาเป็นวิถีชีวิตที่ต้องปฏิบัติ เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่า ก็ยังคงต้องดำเนินการไล่แก้ไขปัญหาต่อไป ด้วยเหตุนี้ จังหวัดเชียงใหม่ จึงได้ตั้งเงินรางวัลนำจับแก่ผู้แจ้งเบาะแสคนเผาป่า และสามารถจับกุมดำเนินคดีได้ รายละ 10,000 บาท เพื่อให้ประชาชนร่วมกันสอดส่องและเป็นหูเป็นตา โดยสามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ นายอำเภอ, หัวหน้าอุทยานฯ และหัวหน้าสถานีควบคุมไฟป่าทุกพื้นที่ พร้อมเน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สืบหาเบาะแสและทำประวัติคนที่ลักลอบเผาป่า เพื่อเป็นข้อมูลในการเดินเข้าหากลุ่มเป้าหมายในครั้งต่อไป เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง และแจ้งให้ทราบถึงความผิดที่อาจจะต้องได้รับโทษ หรือเพื่อป้องกันเหตุในอนาคต เนื่องจากการเกิดไฟไหม้ป่าในหลายกรณี เป็นการเผาโดยราษฏร ทั้งที่แอบเผา หรือเผาพื้นที่ทำเกษตร และทั้งที่บุกใหม่และที่เผาที่ตนเองแล้วลุกลามเข้าไปในพื้นป่า
สำหรับพื้นที่เผาไหม้ของจังหวัดเชียงใหม่ จากการวิเคราะห์ของ GISTDA รอบล่าสุด ณ วันที่ 31 มกราคม 2566 พบว่า จังหวัดเชียงใหม่ มีพื้นที่เผาไหม้แล้วประมาณ 22,000 ไร่ ซึ่งน้อยกว่าปีที่ผ่านมา และจะได้มีการวิเคราะห์อีกครั้งในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ นี้ ซึ่งจะได้มีการรายงานผลประมาณวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2566
ทั้งนี้ เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 15 ก.พ.66 ศูนย์บัญชาการฯ เชียงใหม่ รายงานจุดความร้อน (Hotspot)ประจำวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 รอบบ่ายจังหวัดเชียงใหม่พบจุดความร้อน จำนวน 98 จุด จากช่วงเช้าที่รายงานพบจุดความร้อน จำนวน 107 จุด ขณะที่สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษ กรมควบคุมมลพิษรายงานว่าพบจุดความร้อน Hotspot เกิดขึ้นจำนวน 524จุด (เชียงราย 64 จุด เชียงใหม่ 289 จุด แม่ฮ่องสอน 109 จุด และลำพูน 62 จุด) เช่นเดียวกับศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควันและฝุ่นฯภาค 3 รายงานพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือพบจุดความร้อน 1,420 จุด แยกเป็นภาคเหนือตอนบน 1,190 จุด ภาคเหนือตอนล่าง 230 จุด นอกจากนี้แอพพลิเคชั่น IQAIR เมื่อเวลา 16.00 น.เชียงใหม่ขึ้นเป็นอันดับ 1 เมืองหลักที่มีมลพิษสูงสุดในโลก AQI 191 .