ประธานหอการค้าเชียงใหม่ห่วงเศรษฐกิจปีหน้า เจอปัจจัยลบรุมเร้า วอนรัฐบาลขับเคลื่อนให้รอบด้าน พ้อมุ่งแต่ภาคท่องเที่ยวขณะที่ประเทศไทยมีตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลายภาคส่วน จี้แก้ไขปัญหาฝุ่นpm2.5 อย่างเป็นรูปธรรม หวั่นกระทบทั้งคุณภาพชีวิต เศรษฐกิจและสังคม
นายจุลนิตย์ วังวิวัฒน์ ประธานกรรมการ หอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ เผยแนวโน้มเศรษฐกิจปี 67 ว่า ยังค่อนข้างเป็นห่วงเพราะยังมีปัจจัยหลายอย่างที่จะทำให้เศรษฐกิจชะลอตัว ทั้งภาวะเศรษฐกิจโลก ต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้น สงครารัสเซียกับยูเครน รวมถึงการปรับค่าแรง จึงอยากให้รัฐบาลมีแผนระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาว
ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวอีกว่า ตอนนี้รัฐบาลผลักดัน Soft Power กับภาคการท่องเที่ยวเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ไม่อยากให้รัฐบาลมองแค่ว่าการขับเคลื่อนเศรษฐกิจต้องพึ่งพาแต่ภาคการท่องเที่ยวเท่านั้น ยังมีภาคส่วนอื่นๆ อีก ในแผนระยะสั้น อย่างการแจกเงินดิจิตอล วอลเล็ต ก็อยากให้ถึงมือผู้มีรายได้ระดับกลาง-ล่าง และก็เป็นที่น่ากังวลอย่างที่นักวิชาการและมีผู้แนะนำหลายฝ่ายเกี่ยวกับการกู้เงินมาใช้สำหรับโครงการดิจิตอลวอลเลท ซึ่งรัฐบาลบอกว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ ดังนั้นรัฐบาลควรจะมีแผนกระตุ้นเศรษฐกิจระยะกลางและระยะยาวด้วย โดยเฉพาะที่จะทำให้ความสามารถชำระเงินกู้ได้
“อีกเรื่องหนึ่งคือเรื่องสภาพความเป็นอยู่ของคนในประเทศ โดยเฉพาะปัญหาฝุ่นpm2.5 ซึ่งตอนนี้ที่กรุงเทพฯกำลังสาหัส ส่วนภาคเหนือเองก็เริ่มแล้ว จึงอยากให้รัฐบาลให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ ไม่อยากให้ลูกหลานคนไทยต้องเป็นเหมือนคุณหมอกฤตไทที่ปอดหายไปครึ่ง จึงอยากให้มีการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง โดยเฉพาะกฎหมายอากาศสะอาดที่ตอนนี้รัฐบาลผ่านร่างกฎหมายแล้ว”นายจุลนิตย์ กล่าวและว่า
ฝุ่นpm2.5 ปีนี้น่าจะลากเวลายาวกว่าทุกปี เพราะอากาศแห้ง และกระทบกับคุณภาพชีวิต ความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน กระทบเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว หอการค้าจังหวัดเชียงใหม่เองผลักดันให้เชียงใหม่เป็นที่พำนักระยะยาว แต่หากไม่สามารถแก้ไขปัญหาหรือทุเลาปัญหาฝุ่นpm2.5 ได้ใครจะอยากมาอยู่ อีกเรื่องที่เป็นข้อกังวลกับการเติบโตเศรษฐกิจคือเรื่องของการปรับค่าแรง ที่จริงหอการค้าฯเห็นด้วยว่าไม่มีการปรับขึ้นค่าแรงมาตั้งแต่โควิดระบาด แต่ก็อยากให้มีการคำนวณการปรับขึ้นตามความเหมาะสมของพื้นที่ ซึ่งก็เชื่อว่าผู้ประกอบการยินดีและถ้าภาครัฐมีนโยบายสนับสนุนเช่น ลดค่าไฟ ค่าน้ำหรือเสียภาษีแบบขั้นบันไดก็เชื่อว่าการปรับขึ้นค่าแรงก็ไม่กระทบมากนัก
นายจุลนิตย์ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีโดนกระหน่ำอย่างหนัก ทั้งอัตราดอกเบี้ยที่ปรับขึ้น ปีหน้าค่าไฟ ค่าพลังงานก็ขยับขึ้นอีก ค่าแรงด้วย จึงอยากให้ภาครัฐเข้ามาดูเรื่องเหล่านี้ด้วย.