สถานกงสุลใหญ่สหรัฐฯร่วมกับอบจ.เชียงใหม่ มูลนิธิด้วยกันเพื่อคนพิการและสังคม สสส.,มช.และองค์กรพันธมิตรจัดกิจกรรม “วิ่งด้วยกัน”เพื่อเฉลิมฉลองวันคนพิการสากลประจำปี 2567 กงสุลใหญ่สหรัฐฯเชียงใหม่ เน้นย้ำm6กคนมีที่ทางและบทบาทสำคัญในสังคม การสร้างความเท่าเทียมและเปิดกว้างพื้นที่ให้สามารถเข้าถึงได้ทุกคน
เมื่อเช้าวันที่ 14 ธันวาคม 2567 ที่สวนอบจ.เชียงใหม่ นางลิสา เอ. บูเจนนาส กงสุลใหญ่สหรัฐอเมริกาประจำเชียงใหม่ พร้อมด้วยนายวีรพงศ์ ฤทธิ์รอด รองผวจ.เชียงใหม่,นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร นายกอบจ.เชียงใหม่และศาสตราจารย์ ดร.นพ.พงษ์รักษ์ ศรีบัณฑิตมงคล อธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมกันเปิดกิจกรรม “วิ่งด้วยกัน”ซึ่งสถานกงสุลใหญ่สหรัฐอเมริกา ประจำเชียงใหม่ ร่วมกับ องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ มูลนิธิด้วยกันเพื่อคนพิการและสังคม สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กรุงไทย แอ็กซ่า จัดขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองวันคนพิการสากลประจำปี 2567โดยมีนักวิ่งและผู้สนใจจิตอาสาร่วมวิ่งกับนักเรียนผู้พิการร่วม 500 คน
นางลิสา เอ.บูเจนนาส กงสุลใหญ่สหรัฐอเมริกา ประจำเชียงใหม่ กล่าวว่า งานวิ่งด้วยกันครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองวันคนพิการสากลและเน้นย้ำถึงความสำคัญของภารกิจร่วมกันของสหรัฐฯและประเทศไทยในการสร้างสังคมที่มีความครอบคลุมมากขึ้น สำหรับกิจกรรมในครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากอบจ.เชียงใหม่ที่เป็นเจ้าภาพด้านสถานที่ และพันธมิตรทุกหน่วยงาน รวมถึงน้องๆ จากโรงเรียนสอนคนตาบอดภาคเหนือ(เชียงใหม่) โรงเรียนโสตศึกษาอนุสารสุนทร โรงเรียนศรีสังวาล โรงเรียนกาวิละอนุกูล โรงเรียนออทิสติก เชียงใหม่ และพัฒนาศักยภาพและอาชีพคนพิการหยาดฝนเชียงใหม่รวมถึงศูนย์การเรียนไร่ส้มวิทยา มูลนิธิกระจกเงา
“วันนี้ไม่ใช่แค่การออกกำลังกายเท่านั้น นี่ไม่ใช่การแข่งขันและทุกคนก็จะได้รับเหรียญที่ระลึก แต่วันนี้เป็นวันที่เรามารวมตัวกันด้วยมิตรภาพและเน้นย้ำถึงความสำคัญของการสร้างความเท่าเทียมและการเข้าถึงให้กับผู้พิการเพื่อเน้นย้ำว่าทุกคนมีที่ทางและบทบาทสำคัญในสังคม ซึ่งทั่วโลกมีผู้พิการมากกว่า 1,300 ล้านคน นั่นเท่ากับ 1 ใน 6 คน พวกเราอาจจะต้องพิการในบางช่วงของชีวิตไม่ว่าจะจากการบาดเจ็บ การคลอดบุตรหรือจากความชราดังนั้นเราต้องทำให้แน่ใจว่าโรงเรียน สถานที่ทำงาน ระบบขนส่งสาธารณะและทางเท้าของเราสามารถเข้าถึงได้สำหรับทุกคน”กงสุลใหญ่สหรัฐฯ เชียงใหม่ กล่าวและว่า
สหรัฐฯผ่านพ.ร.บ.คนพิการเมื่อ 34 ปีที่แล้ว โดยกำหนดให้อาคารสาธารณะพื้นที่และการขนส่งทั้งหมดต้องใช้การออกแบบเพื่อคนทั้งมวลและรองรับความสามารถในทุกระดับ และยินที่ที่ประเทศไทยจะนำมาตรฐานอาคารดังกล่าวมราใช้ ครั้งนี้เราจึงมาตั้งเป้าหมายในการหาเพื่อนใหม่และท้าทางตัวเองให้ทำสิ่งต่างๆ มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นที่บ้านหรือที่ทำงานและในเชียงใหม่ เพื่อส่งเสริมวัฒนธรรมแห่งการรวมกันเป็นหนึ่งเดียว เพื่อให้แน่ใจว่าพื้นที่ของเราเปิดกว้างและสามารถเข้าถึงได้สำหรับทุกคน.